D
ชื่อระดับเสียง ( เร )
Da, dal, dallo, dalla (It. ดา , ดัล , ดัลโล , ดัลลา )
จาก , ที่ , โดย , ไปยัง , สำหรับ , เหมือน
Da capo (It. ดา คาโป )
จากจุดเริ่มต้น คำย่อคือ D.C.
D.C. al Fine
หมายถึง ให้กลับไปใหม่ที่จุดเริ่มต้น และเล่นจนถึงคำว่า Fine
D.C. al Segno
หมายถึง ให้กลับใหม่ที่จุดเริ่มต้น และเล่นจนถึงเครื่องหมาย Segno
Dal segno (It. ดาล เซคโน )
ย้อนกลับจากเครื่องหมาย segno คำย่อคือ D.S.
D.S. al Fine
หมายถึง ให้กลับไปใหม่ที่เครื่องหมาย D.S. แล้วเล่นจนถึงคำว่า Fine( ฟิเน่ )
Dampfer ( แดมพ์เฟอร์ )
เครื่องลดความดังของเสียง
Dans (Fr. ด็อง )
ใน , ภายใน
Debut (Fr. เดบู )
การปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณะชน การบรรเลงครั้งแรก
Decibel ( เดซิเบล )
หน่วยวัดความดังของเสียง คำย่อคือ db.
Decide (Fr. เดซีเด )
แน่นอน , ตัดสินใจแล้ว
Deciso (It. เดซีโซ )
กล้าหาญ มั่นใจเต็มที่ ตัดสินใจเด็ดขาด เต็มไปด้วยพลัง
Decrescendo (It. ดีเครเชนโด )
เบาลงทีละน้อย ๆ คำย่อคือ decresc.
Degree ( ดีกรี )
ระดับขั้นของโน้ตในสเกล เช่นโน้ต D เป็นระดับขั้นที่สองของบันไดเสียง C เมเจอร์
Dehors (Fr. เดท์ออร์ )
ด้วยการย้ำอย่างหนักแน่น ทำให้เด่นออกมา
Delicato (It. เดลิคาโต )
ด้วยท่าทางอันเรียบร้อยและละเอียดอ่อน
Demi (Fr. เดมิ )
ครึ่ง
Demisemiquaver ( เดมิเซมิเควเวอร์ )
โน้ตตัวเขบ็ตสามชั้น
Desto (It. เดสโต )
สดชื่นมีชีวิตชีวา
Detache (Fr. เดตาเซ )
ซึ่งแยกออกจากกัน
Deutlich (Gr. ดอยทริชค์ )
ใส , เด่น
Di (It. ดิ )
ไปยัง , โดย , ของ , สำหรับ , กับ
Di molto (It. ดิ มอลโต )
อย่างมาก
Diatonic ( เดียอาโทนิก )
1. หมายถึงเสียงที่เกิดขึ้นในบันไดเสียงเมเจอร์หรือไมเนอร์
2. การเคลื่อนไปในลักษณะครึ่งเสียงแบบไดอาโทนิกหมายถึงการเคลื่อนที่ ไปยังโน้ตใกล้เคียงกันโดยมีชื่อโน้ตต่างกันขณะที่การเคลื่อนไปในลักษณะครึ่งเสียงแบบโครมาติกจะเป็นการเคลื่อนที่ไปที่โน้ตชื่อเดียวกันเพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเครื่องหมายแปลงเสียง
Diminished ( ดิมินิชท์ )
รูปแบบของคอร์ดที่ประกอบด้วยโน้ตลำดับที่ 1 3b 5b ( C Eb Gb)
Diminuendo (It. ดิมินูเอนโด )
เบาลงเรื่อย ๆ คำย่อคือ dim, dimin.
Diminution ( ดิมินูชั่น )
การย่อ การแสดงโมทีฟโดยตัวโน้ตที่มีอัตราจังหวะสั้นกว่าตัวโน้ตเดิมในโมทีฟนั้น ๆ
Dissonance ( ดิสโซแนนซ์ )
เสียงกระด้างขั้นคู่เสียงหรือคอร์ดที่ฟังแล้วไม่รู้สึกผ่อนคลายและจำเป็นจะต้องเคลื่อนเข้าหาขั้นคู่เสียงหรือคอร์ดที่มีเสียงสบายกว่าหรือเสียงที่กลมกล่อมกว่าการเคลื่อนที่จากเสียงกระด้างไปหาเสียงกลมกล่อมนี้เรียกว่า " การเกลา " ขั้นคู่เสียงกระด้างได้แก่คู่สอง คู่เจ็ด และสำหรับคอร์ด คือ อ็อกเมนเต็ด และดิมินิชท์ทุกคอร์ด
Distinto ( ดิสทินโต )
ชัดเจน
Divertimento (It. ดิเวอร์ติเมนโต )
คีตลักษณ์คล้ายแบบของสวีทและซิมโฟนีปกติประกอบด้วยเพลงเต้นรำและท่อนเพลงสั้น ๆ บรรเลงโดยวงดนตรีขนาดเล็ก
Divisi (It. ดิวิซิ )
แบ่งแยกออกจากกันใช้ในบทเพลงสำหรับบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีเพื่อบ่งชี้ว่าให้นักดนตรีซึ่งมีอยู่มากมายนั้นแยกกันเล่นโน้ตในคอร์ดนั้น ๆ คำย่อคือ div.
Dolce (It. ดอลเช )
อ่อนหวานนุ่มนวล
Dolente (lt. ดอลเลนเต )
เศร้าสร้อย หงอยเหงา
Dolore (lt. โดโรเร )
เศร้า เจ็บปวด เสียใจ
Dominant ( ดอมิแนนท์ )
ขั้นที่ห้าของบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์ คอร์ดดอมิแนนท์ก็คือทรัยแอดที่สร้างบนโน้ตเสียงนี้
Dominant seventh ( ดอมิแนนท์ เซเวนท์ )
คอร์ดดอมิแนนท์ที่เพิ่มโน้ตตัวที่ 7 ของบันไดเสียงเข้าไป เช่น G7 ( G B D F)
Doppio (It. ดอปปิโอ )
มากกว่าเป็นสองเท่า
Doppio movimento (It. ดอปปิโอ โมวิเม็นโต )
เร็วขึ้นเป็นสองเท่า
Doppio piu lento (It. ดอปปิโอ ปิว เล็นโต )
ช้าลงเป็นสองเท่า
Doroloso (It. ดอลโลโรโซ )
เศร้า , เซื่องซึม
Dorian mode ( โดเรียน โมด )
โมดโดเรียน โมดที่ใช้ในเพลงโบสถ์ยุคกลาง ซึ่งอาจสร้างโดยการเล่นจาก D ไป D บนคีย์ขาวของเปียโน
Dot ( ด๊อท )
จุด 1. จุดที่อยู่หลังตัวโน้ตนั้นย่อมเพิ่มความยาวเสียงอีกครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวนั้นดัง 2. จุดที่อยู่เหนือหรือใต้ตัวโน้ตโด หมายถึง ให้เล่นแบบสตั้กคาโต
Double bar ( ดับเบิล บาร์ )
1. ปรากฏในส่วนจบของบทเพลงตอนหนึ่ง ( ยังไม่จบเพลงทั้งหมด )
2. ปรากฏในส่วนจบของบทเพลงนั้นหรือท่อนของบทเพลงนั้นโดยสมบูรณ์ไม่มีต่ออีกแล้ว
Double bass ( ดับเบิลเบส )
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
Double bassoon ( ดับเบิลบาสซูน )
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้ที่ใช้ลิ้นคู่ ที่มีระดับเสียงต่ำ
Double flat ( ดับเบิลแฟล็ท )
เครื่องหมายดับเบิลแฟล็ทจัดวางไว้ข้างหน้าโน้ตเพื่อทำให้โน้ตนั้นมีเสียงต่ำลงหนึ่งเสียงเต็ม
Double period ( ดับเบิลพีเรียด )
ประโยคใหญ่คู่ประโยคใหญ่สองประโยคที่ประกอบกันอย่างสมดุลโดยแบ่งแยกกันด้วยลูกจบกลาง
Double sharp ( ดับเบิลชาร์ป )
เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์จัดวางไว้หน้าตัวโน้ตเพื่อทำให้ระดับเสียงของตัวโน้ตสูงขึ้นหนึ่งเสียง
Doubling ( ดับบลิ้ง )
การซ้ำโน้ตการจัดให้เสียงในคอร์ดเสียงเดียวกันอยู่ในแนวเสียงมากกว่าหนึ่งแนว
Douce(ment) (Fr. ดูส์มาน )
อย่างอ่อนหวาน
Downbeat ( ดาวน์บีท )
หมายถึงจังหวะตกที่จังหวะแรกของห้องปกติมักให้เน้น ในการอำนวยเพลงนั้นจังหวะตกเกิดขึ้นจากการใช้สัญญาณตวัดมือลง
Drangend (Gr. เดรนเกนด์ )
เร็วขึ้น
Drone ( โดรน )
1. ชื่อท่อเสียงที่ติดกับเครื่องดนตรีประเภทปี่สก๊อต แต่ละท่อจะทำเสียงได้หนึ่งเสียงเป็นเสียงยาวต่อเนื่องกัน
2. การซ้ำและยาวต่อเนื่องกันของเสียงเบส เหมือนเสียงโดรน ( หรือเรียกว่า " เสียงเสพ " คือเสียงหลักที่ลากยาวอย่างต่อเนื่องจากการเป่าแคน ) ที่เกิดขึ้นตามข้อ 1 เราเรียกว่า โดรนเบส
Druckend (Gr. ดรุคเคนด์ )
หนัก เน้น
Drum ( ดรัม )
กลองเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบชนิดหนึ่ง
1. สะแนร์ดรัม หรือกลองเล็ก ประกอบด้วยแผงลวดขึงรัดผ่านผิวหน้ากลองด้านล่าง เพื่อให้เกิดเสียงกรอบ ๆ ดังแต๊ก ๆ ตัวกลองทำด้วยไม้หรือโลหะและสามารถรัดให้หนังตึงด้วยขอบไม้ด้านบนและล่างสามารถปลดสายสะแนร์เพื่อให้เกิดเสียงทุ้มดังตุ้มตุ้มได้และตีกลองเล็กด้วยไม้นิยมใช้กลองชนิดนี้ทั้งในวงดุริยางค์และวงดนตรี
2. เทเนอร์ดรัมมีขนาดใหญ่กว่าสะแนร์ดรัมเป็นกลองชนิดที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้สายสะแนร์โดยทั่วไปบรรเลงในหมวดกลองไม้ที่ใช้ตีก็เป็นชนิดหัวไม้หุ้มสักหลาด
3. กลองใหญ่เป็นกลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดประกอบด้วยตัวกลองที่ทำด้วยไม้และมีหนังกลองทั้งสองด้านเสียงที่เกิดจากการตีกลองใหญ่จะไม่ตรงกับระดับเสียงที่กำหนดไว้ทางตัวโน้ตตีด้วยไม้ที่มีสักหลาดหุ้มชนิดที่มีหัวที่ปลายทั้งสองข้างใช้เพื่อทำเสียงรัว
4. กลองทิมปานี ( หรือกลองเค็ทเทิ้ลดรัม ) เป็นกลองที่มีลักษณะเป็นหม้อกระทะซึ่งมีหน้าหนังกลองหุ้มทับอยู่ด้านบนเป็นกลองชนิดเดียวที่ขึ้นเสียงแล้วได้ระดับเสียงที่แน่นอนเมื่อคลายหรือขันหน้ากลองโดยไม่ว่าจะใช้วิธีขันสกรูหรือเหยียบเพดดัล ( ที่เหยียบ ) ไม้ที่ใช้ตีก็มีการหุ้มนวมตรงหัวไม้ตี ตีได้ทั้งเป็นจังหวะและรัว
Duet ( ดูเอ็ด )
บทประพันธ์สำหรับผู้เล่นสองคน
Dulcimer ( ดัลซิเมอร์ )
ขิมฝรั่งเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายในยุคต้นที่ตีด้วยไม้ตีขิมเล็ก ๆ สองอัน
Duo ( ดูโอ )
คู่หนึ่งหมายถึง duet
Duple time ( ดูเพิ้ลไทม์ )
เครื่องหมายกำหนดจังหวะประเภทนับสองจังหวะในหนึ่งห้อง
Dynamic mark ( ไดนามิก มาร์ค )
สัญลักษณ์และคำที่บ่งชี้ถึงความดังและความเบาของดนตรี เช่น เครเชนโด เดเครเชนโด p. f. ฯลฯ
ชื่อระดับเสียง ( เร )
Da, dal, dallo, dalla (It. ดา , ดัล , ดัลโล , ดัลลา )
จาก , ที่ , โดย , ไปยัง , สำหรับ , เหมือน
Da capo (It. ดา คาโป )
จากจุดเริ่มต้น คำย่อคือ D.C.
D.C. al Fine
หมายถึง ให้กลับไปใหม่ที่จุดเริ่มต้น และเล่นจนถึงคำว่า Fine
D.C. al Segno
หมายถึง ให้กลับใหม่ที่จุดเริ่มต้น และเล่นจนถึงเครื่องหมาย Segno
Dal segno (It. ดาล เซคโน )
ย้อนกลับจากเครื่องหมาย segno คำย่อคือ D.S.
D.S. al Fine
หมายถึง ให้กลับไปใหม่ที่เครื่องหมาย D.S. แล้วเล่นจนถึงคำว่า Fine( ฟิเน่ )
Dampfer ( แดมพ์เฟอร์ )
เครื่องลดความดังของเสียง
Dans (Fr. ด็อง )
ใน , ภายใน
Debut (Fr. เดบู )
การปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณะชน การบรรเลงครั้งแรก
Decibel ( เดซิเบล )
หน่วยวัดความดังของเสียง คำย่อคือ db.
Decide (Fr. เดซีเด )
แน่นอน , ตัดสินใจแล้ว
Deciso (It. เดซีโซ )
กล้าหาญ มั่นใจเต็มที่ ตัดสินใจเด็ดขาด เต็มไปด้วยพลัง
Decrescendo (It. ดีเครเชนโด )
เบาลงทีละน้อย ๆ คำย่อคือ decresc.
Degree ( ดีกรี )
ระดับขั้นของโน้ตในสเกล เช่นโน้ต D เป็นระดับขั้นที่สองของบันไดเสียง C เมเจอร์
Dehors (Fr. เดท์ออร์ )
ด้วยการย้ำอย่างหนักแน่น ทำให้เด่นออกมา
Delicato (It. เดลิคาโต )
ด้วยท่าทางอันเรียบร้อยและละเอียดอ่อน
Demi (Fr. เดมิ )
ครึ่ง
Demisemiquaver ( เดมิเซมิเควเวอร์ )
โน้ตตัวเขบ็ตสามชั้น
Desto (It. เดสโต )
สดชื่นมีชีวิตชีวา
Detache (Fr. เดตาเซ )
ซึ่งแยกออกจากกัน
Deutlich (Gr. ดอยทริชค์ )
ใส , เด่น
Di (It. ดิ )
ไปยัง , โดย , ของ , สำหรับ , กับ
Di molto (It. ดิ มอลโต )
อย่างมาก
Diatonic ( เดียอาโทนิก )
1. หมายถึงเสียงที่เกิดขึ้นในบันไดเสียงเมเจอร์หรือไมเนอร์
2. การเคลื่อนไปในลักษณะครึ่งเสียงแบบไดอาโทนิกหมายถึงการเคลื่อนที่ ไปยังโน้ตใกล้เคียงกันโดยมีชื่อโน้ตต่างกันขณะที่การเคลื่อนไปในลักษณะครึ่งเสียงแบบโครมาติกจะเป็นการเคลื่อนที่ไปที่โน้ตชื่อเดียวกันเพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเครื่องหมายแปลงเสียง
Diminished ( ดิมินิชท์ )
รูปแบบของคอร์ดที่ประกอบด้วยโน้ตลำดับที่ 1 3b 5b ( C Eb Gb)
Diminuendo (It. ดิมินูเอนโด )
เบาลงเรื่อย ๆ คำย่อคือ dim, dimin.
Diminution ( ดิมินูชั่น )
การย่อ การแสดงโมทีฟโดยตัวโน้ตที่มีอัตราจังหวะสั้นกว่าตัวโน้ตเดิมในโมทีฟนั้น ๆ
Dissonance ( ดิสโซแนนซ์ )
เสียงกระด้างขั้นคู่เสียงหรือคอร์ดที่ฟังแล้วไม่รู้สึกผ่อนคลายและจำเป็นจะต้องเคลื่อนเข้าหาขั้นคู่เสียงหรือคอร์ดที่มีเสียงสบายกว่าหรือเสียงที่กลมกล่อมกว่าการเคลื่อนที่จากเสียงกระด้างไปหาเสียงกลมกล่อมนี้เรียกว่า " การเกลา " ขั้นคู่เสียงกระด้างได้แก่คู่สอง คู่เจ็ด และสำหรับคอร์ด คือ อ็อกเมนเต็ด และดิมินิชท์ทุกคอร์ด
Distinto ( ดิสทินโต )
ชัดเจน
Divertimento (It. ดิเวอร์ติเมนโต )
คีตลักษณ์คล้ายแบบของสวีทและซิมโฟนีปกติประกอบด้วยเพลงเต้นรำและท่อนเพลงสั้น ๆ บรรเลงโดยวงดนตรีขนาดเล็ก
Divisi (It. ดิวิซิ )
แบ่งแยกออกจากกันใช้ในบทเพลงสำหรับบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีเพื่อบ่งชี้ว่าให้นักดนตรีซึ่งมีอยู่มากมายนั้นแยกกันเล่นโน้ตในคอร์ดนั้น ๆ คำย่อคือ div.
Dolce (It. ดอลเช )
อ่อนหวานนุ่มนวล
Dolente (lt. ดอลเลนเต )
เศร้าสร้อย หงอยเหงา
Dolore (lt. โดโรเร )
เศร้า เจ็บปวด เสียใจ
Dominant ( ดอมิแนนท์ )
ขั้นที่ห้าของบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์ คอร์ดดอมิแนนท์ก็คือทรัยแอดที่สร้างบนโน้ตเสียงนี้
Dominant seventh ( ดอมิแนนท์ เซเวนท์ )
คอร์ดดอมิแนนท์ที่เพิ่มโน้ตตัวที่ 7 ของบันไดเสียงเข้าไป เช่น G7 ( G B D F)
Doppio (It. ดอปปิโอ )
มากกว่าเป็นสองเท่า
Doppio movimento (It. ดอปปิโอ โมวิเม็นโต )
เร็วขึ้นเป็นสองเท่า
Doppio piu lento (It. ดอปปิโอ ปิว เล็นโต )
ช้าลงเป็นสองเท่า
Doroloso (It. ดอลโลโรโซ )
เศร้า , เซื่องซึม
Dorian mode ( โดเรียน โมด )
โมดโดเรียน โมดที่ใช้ในเพลงโบสถ์ยุคกลาง ซึ่งอาจสร้างโดยการเล่นจาก D ไป D บนคีย์ขาวของเปียโน
Dot ( ด๊อท )
จุด 1. จุดที่อยู่หลังตัวโน้ตนั้นย่อมเพิ่มความยาวเสียงอีกครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวนั้นดัง 2. จุดที่อยู่เหนือหรือใต้ตัวโน้ตโด หมายถึง ให้เล่นแบบสตั้กคาโต
Double bar ( ดับเบิล บาร์ )
1. ปรากฏในส่วนจบของบทเพลงตอนหนึ่ง ( ยังไม่จบเพลงทั้งหมด )
2. ปรากฏในส่วนจบของบทเพลงนั้นหรือท่อนของบทเพลงนั้นโดยสมบูรณ์ไม่มีต่ออีกแล้ว
Double bass ( ดับเบิลเบส )
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
Double bassoon ( ดับเบิลบาสซูน )
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้ที่ใช้ลิ้นคู่ ที่มีระดับเสียงต่ำ
Double flat ( ดับเบิลแฟล็ท )
เครื่องหมายดับเบิลแฟล็ทจัดวางไว้ข้างหน้าโน้ตเพื่อทำให้โน้ตนั้นมีเสียงต่ำลงหนึ่งเสียงเต็ม
Double period ( ดับเบิลพีเรียด )
ประโยคใหญ่คู่ประโยคใหญ่สองประโยคที่ประกอบกันอย่างสมดุลโดยแบ่งแยกกันด้วยลูกจบกลาง
Double sharp ( ดับเบิลชาร์ป )
เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์จัดวางไว้หน้าตัวโน้ตเพื่อทำให้ระดับเสียงของตัวโน้ตสูงขึ้นหนึ่งเสียง
Doubling ( ดับบลิ้ง )
การซ้ำโน้ตการจัดให้เสียงในคอร์ดเสียงเดียวกันอยู่ในแนวเสียงมากกว่าหนึ่งแนว
Douce(ment) (Fr. ดูส์มาน )
อย่างอ่อนหวาน
Downbeat ( ดาวน์บีท )
หมายถึงจังหวะตกที่จังหวะแรกของห้องปกติมักให้เน้น ในการอำนวยเพลงนั้นจังหวะตกเกิดขึ้นจากการใช้สัญญาณตวัดมือลง
Drangend (Gr. เดรนเกนด์ )
เร็วขึ้น
Drone ( โดรน )
1. ชื่อท่อเสียงที่ติดกับเครื่องดนตรีประเภทปี่สก๊อต แต่ละท่อจะทำเสียงได้หนึ่งเสียงเป็นเสียงยาวต่อเนื่องกัน
2. การซ้ำและยาวต่อเนื่องกันของเสียงเบส เหมือนเสียงโดรน ( หรือเรียกว่า " เสียงเสพ " คือเสียงหลักที่ลากยาวอย่างต่อเนื่องจากการเป่าแคน ) ที่เกิดขึ้นตามข้อ 1 เราเรียกว่า โดรนเบส
Druckend (Gr. ดรุคเคนด์ )
หนัก เน้น
Drum ( ดรัม )
กลองเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบชนิดหนึ่ง
1. สะแนร์ดรัม หรือกลองเล็ก ประกอบด้วยแผงลวดขึงรัดผ่านผิวหน้ากลองด้านล่าง เพื่อให้เกิดเสียงกรอบ ๆ ดังแต๊ก ๆ ตัวกลองทำด้วยไม้หรือโลหะและสามารถรัดให้หนังตึงด้วยขอบไม้ด้านบนและล่างสามารถปลดสายสะแนร์เพื่อให้เกิดเสียงทุ้มดังตุ้มตุ้มได้และตีกลองเล็กด้วยไม้นิยมใช้กลองชนิดนี้ทั้งในวงดุริยางค์และวงดนตรี
2. เทเนอร์ดรัมมีขนาดใหญ่กว่าสะแนร์ดรัมเป็นกลองชนิดที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้สายสะแนร์โดยทั่วไปบรรเลงในหมวดกลองไม้ที่ใช้ตีก็เป็นชนิดหัวไม้หุ้มสักหลาด
3. กลองใหญ่เป็นกลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดประกอบด้วยตัวกลองที่ทำด้วยไม้และมีหนังกลองทั้งสองด้านเสียงที่เกิดจากการตีกลองใหญ่จะไม่ตรงกับระดับเสียงที่กำหนดไว้ทางตัวโน้ตตีด้วยไม้ที่มีสักหลาดหุ้มชนิดที่มีหัวที่ปลายทั้งสองข้างใช้เพื่อทำเสียงรัว
4. กลองทิมปานี ( หรือกลองเค็ทเทิ้ลดรัม ) เป็นกลองที่มีลักษณะเป็นหม้อกระทะซึ่งมีหน้าหนังกลองหุ้มทับอยู่ด้านบนเป็นกลองชนิดเดียวที่ขึ้นเสียงแล้วได้ระดับเสียงที่แน่นอนเมื่อคลายหรือขันหน้ากลองโดยไม่ว่าจะใช้วิธีขันสกรูหรือเหยียบเพดดัล ( ที่เหยียบ ) ไม้ที่ใช้ตีก็มีการหุ้มนวมตรงหัวไม้ตี ตีได้ทั้งเป็นจังหวะและรัว
Duet ( ดูเอ็ด )
บทประพันธ์สำหรับผู้เล่นสองคน
Dulcimer ( ดัลซิเมอร์ )
ขิมฝรั่งเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายในยุคต้นที่ตีด้วยไม้ตีขิมเล็ก ๆ สองอัน
Duo ( ดูโอ )
คู่หนึ่งหมายถึง duet
Duple time ( ดูเพิ้ลไทม์ )
เครื่องหมายกำหนดจังหวะประเภทนับสองจังหวะในหนึ่งห้อง
Dynamic mark ( ไดนามิก มาร์ค )
สัญลักษณ์และคำที่บ่งชี้ถึงความดังและความเบาของดนตรี เช่น เครเชนโด เดเครเชนโด p. f. ฯลฯ