โครงสร้างคอร์ด
คราวนี้เพื่อนๆอยากทราบมั้ย ครับ ว่าคอร์ดชื่อแปลกๆ
ที่เคยเจอตามหนังสือเพลงทั่วๆไปจะมีโครงสร้างคอร์ดยังไงกันบ้าง ตัวอย่างเช่น Asus4, Caug4, Gdim7 เป็นต้น เป็นไงครับ แค่เห็นชื่อคอร์ดก็ถึงกับขยาดเลยใช่มั้ยครับ แต่อันที่จริงก็ไม่ได้ยากอย่าง ที่คิดกันหรอกครับ เพราะแต่ละชื่อมีโครงสร้างของมันชัดเจน ตามชื่อเรียกอยู่แล้ว เพียงแต่เรามักจะหลีกเลี่ยง คอร์ดเหล่านี้ด้วยความไม่คุ้นเคย โดยการใช้คอร์ดใกล้เคียงแทน เช่น Asus4 จับยังไงก็ไม่รู้ บางทียังไม่ทันเห็น หน้าของคอร์ดเลยด้วยซ้ำ ก็เลี่ยงไปจับคอร์ด A แทนซะแล้ว ซึ่งการใช้คอร์ดแทนดังกรณีเช่นนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร หรอกครับ เพราะคอร์ดที่ดูชื่อยากๆเนี่ย อันที่จริงมันก็มีพื้นฐานมาจากคอร์ดหลักๆของมันเอง งงรึเปล่าครับ ว่ากันง่ายๆ คือ เสียงของแต่ละคอร์ดถูกแบ่งออกเป็น 2 ทางหลักๆ คือ 1.ทาง Major ซึ่งเวลาเขียนชื่อคอร์ดส่วนใหญ่เราจะละคำว่า "Major" เอาไว้ เช่น คอร์ด A เรียกเต็มๆว่า คอร์ด "เอเมเจอร์" เขียนเต็มๆว่า Amaj แต่อย่างที่บอกแหล่ะครับว่าเราจะละคำนี้เอาไว้ และเรียกกันสั้นๆว่า "คอร์ดเอ" และเขียนสั้นๆว่า "คอร์ด A" 2.ทาง minor เวลาเขียนจะนิยมแทนคำว่า minor ด้วยตัว m เล็ก ตัวอย่างเช่น Am อ่านว่า "เอไมเนอร์" ในกรณีที่เราคิดว่าคอร์ดที่ใช้ในเพลงจริงๆนั้นมันยากเกินไป ก็สามารถใช้คอร์ดหลักแทนได้ แต่จะต้องคำนึงถึง ว่าคอร์ดนั้นๆ เป็นคอร์ดในทาง Major หรือ minor สังเกตุง่ายๆครับ ถ้ามีตัว mเล็กติดอยู่ด้วยแสดงว่าเป็นคอร์ดใน ทางไมเนอร์ แต่ถ้าไม่มีก็แสดงว่าเป็นคอร์ดในทาง Major ครับ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเจอคอร์ด Asus4 แล้วไม่รู้ว่า จับยังไงก็ให้จับคอร์ด A แทน เพราะมันเป็นคอร์ดในทางเมเจอร์ และถ้าเจอคอร์ด Bm9 ก็อาจจะจับคอร์ด Bm แทนก็ได้ครับ เพราะมันเป็นคอร์ดในทางไมเนอร์ครับ
อย่างไรก็ตาม คอร์ดบางคอร์ดมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ยากที่จะใช้คอร์ดหลักมาแทนได้ฉะนั้นผมอยาก
ให้เพื่อนๆได้ลองศึกษาโครงสร้างของคอร์ดต่างๆดูบ้าง
เพื่อที่จะได้เข้าใจความเป็นมาของแต่ละคอร์ดและจะได้ ไม่กลัวมันอีกต่อไป
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น